คิดว่าไง ห่วงศาสนาหรือหิวแสง 2 พส. VS ศรีสุวรรณ ในโหนกระแส
กลายเป็นปรากฏการณ์ไลฟ์ธรรมะที่ได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์อย่างมาก สำหรับไลฟ์สอนธรรมะของ 2 พส. (พระสงฆ์) พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระแห่งวัดสร้อยทอง กับพระมหาสมปอง ซึ่งมีการแสดงธรรมแบบตลกแบบสอดแทรกธรรมะ จนกลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก และมีบางฝ่ายออกมาตั้งคำถามเรื่องความเหมาะสม
หนึ่งในนั้นคือ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ซึ่งได้ทำคำร้องส่งไปยังมหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อขอให้มีบัญชาสอบสวนเอาผิดพระทั้ง 2 รูป ที่ไลฟ์สดเอาธรรมะมาสอนเป็นเรื่องตลกขบขัน อีกทั้งเมื่อมีเพจที่เข้ามาคอมเมนต์ขายสินค้าโปรโมตแบรนด์ กลับมีการทวงถามให้จ่ายค่าเช่าพื้นที่เพจ
ล่าสุด (6 กันยายน 2564) พระมหาไพรวัลย์ และพระมหาสมปอง ได้มาร่วมนั่งพูดคุยถึงกรณีที่เกิดขึ้นกับทางรายการ โหนกระแส ทางช่อง 3 ซึ่งในรายการยังได้โฟนอินถึง นายศรีสุวรรณ จรรยา ให้เข้ามาร่วมตอบคำถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
โดย นายศรีสุวรรณ ยืนยันกับพิธีกร หนุ่ม กรรชัย ว่าตัวเองไม่ได้หิวแสง “ผมทำอย่างนี้ของผมมาโดยตลอดอยู่แล้ว จนเป็นเรื่องปกติ แล้วจะมาว่าผมหิวแสงได้อย่างไร ผมก็มีแสดงอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว ทำอะไรก็เป็นข่าวอยู่แล้ว”
นายศรีสุวรรณยังชี้ว่า ในส่วนที่ทำหนังสือร้องถึง มส. ก็เพื่อขอให้ดำเนินการตั้งกรรมการสอบ พิจารณาออกกฎว่าการที่มีภิกษุมาแสดงธรรมในลักษณะตลกขบขันเช่นนี้ เป็นสิ่งที่เหมาะสมต่อสมณเพศหรือไม่ และการที่พระมาทวงถามเงินปัจจัยหรือแสดงเลขบัญชีพร้อมเพย์แบบนี้ ตนมองว่าเข้าข่ายความผิดตามพระวินัย
ขณะที่ พระมหาไพรวัลย์ กล่าวว่า อาตมะก็ยืนยันเหมือนเดิมว่าถ้าโยมศรีอยากแจ้งอะไรก็ไปแจ้ง มีความปรารถนาดีต่อศาสนาอะไรก็เอาเถิด แต่ขอนิดหนึ่งว่าใส่อารมณ์ขันเข้าไปในชีวิตบ้าง อย่าเห็นเสียงหัวเราะมันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย คนเราจะเป็นโรคประสาทตายกันอยู่ทั้งประเทศแล้ว ก็เพราะว่ามันเครียด
ทำไมไม่เห็นธรรมะที่เราสอนไป ที่เราสอดแทรกเข้าไป มันก็มีอยู่ ทำไมถึงมองว่าการเทศน์ขำ การสอดแทรกเข้าไปมันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายแบบนั้น อาตมาก็อยากจะถาม
ด้านหนุ่ม กรรชัย ยังชี้ว่า ในส่วนเรื่องเงินนั้นเป็นการโพสต์อำไว้เฉย ๆ เนื่องจากระหว่างการไลฟ์มีแบรนด์จำนวนมากเข้ามาโพสต์ ท่านเลยอำว่าจะเรียกเก็บเงิน นายศรีสุวรรณแค่เข้าใจผิดหรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายศรีสุวรรณ มองว่าหากเป็นการอำก็ไม่จำเป็นต้องไปโพสต์หมายเลขพร้อมเพย์ด้วย
“ก็แล้วอาตมาไปบังคับหรือเปล่าโยมศรี ถ้าอาตมาจะเอาจริง ๆ สปอนเซอร์ก็เข้านะ จะต้องมาโพสต์เลขพร้อมเพย์เพื่อจะเอาเงิน 10 บาท 20 บาทหรือ” พระมหาไพรวัลย์ ระบุ
นายศรีสุวรรณยังมองว่าการทำแบบนี้สะท้อนให้เห็นถึงเจตนา ถ้าไม่เจตนาจริงก็ควรบอกให้ไปบริจาคหรือทำบุญ โดยไม่จำเป็นต้องมาโพสต์ไว้ การโพสต์ไว้คือต้องการให้บุคคลที่เป็นแอดมินเพจที่ไปร่วมคอมเมนต์ อย่างนี้ไม่ถูกหลัก
ในส่วนนี้ พระมหาไพรวัลย์ ชี้แจงต่อว่า จริง ๆ แล้วมันมีคนแซว โยมศรีต้องไปฟัง มีกลุ่มคนเขาไปคอมเมนต์ว่าพระอาจารย์เก็บค่าแผงเถอะ เพราะถ้าพระอาจารย์ไม่เก็บก็จะมีพวกแบรนด์เข้ามาขายของตลอด เลยให้โพสต์เลขบัญชีไป ถ้าไม่อยากจ่ายก็จะได้ไม่ต้องเข้ามา เป็นกุศโลบาย
นายศรีสุวรรณพยายามโต้ มองว่าใครจะโพสต์อะไรถ้าท่านมีความเมตตา คนจะโพสต์โฆษณาอะไรก็ไม่ต้องไปเรียกเงิน
ในจุดนี้ทางพระมหาไพรวัลย์ ได้ยกกรณีของหนังสือที่ถูกนำมาวางไว้ในไลฟ์ ซึ่งตอนนี้ขายดีมาก เพราะมีคนแคปภาพไป โดยทั้ง 2 พส. ก็ไม่ได้เก็บเงินสักบาท มีคนมาไทอินยาสระผมอาตามาก็ยังให้ “โยมศรีไม่ดูเลยว่าฟรีหมด คนขายของดีมาก ขนาดนำตุ๊กตาหรือยาดมไปวาง ก็ไม่ได้เก็บเงินสักบาท”
“ท่านเป็นนักบวช เป็นภิกษุ อย่ามาทำเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่น เหมือนท่านพระมหาสมปองที่ไปโฆษณาขายปุ๋ยอินทรีย์ ผมก็กำลังติดตามอยู่ว่าที่ท่านนำมาขายเนี่ย อาจจะผิดกฎหมาย อย่าทำเป็นเรื่องเล่นนะเรื่องแบบนี้” นายศรีสุวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ พระมหาสมปอง ยอมรับว่าในส่วนนี้ก็มี อย. เตือนมาเหมือนกัน ว่าเราไม่ได้มีสิทธิ์รีวิวอะไร จริง ๆ ก็เป็นของลูกศิษย์ลูกหา แต่อาตมาก็รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งก็ได้ขอโทษขออภัย และก็จะไม่ทำแบบนั้นอีก
พร้อมกันนั้น พระมหาสมปอง ยังสอบถามว่าจะไปฉันกาแฟที่บ้านโยมศรีได้หรือไม่ เพราะคิดว่าการได้พูดคุยกันเราจะเข้าใจกัน เข้าใจว่าโยมศรีอาจจะเป็นห่วง ซึ่งทางด้านนายศรีสุวรรณก็ได้นิมนต์พระทั้ง 2 รูป มาร่วมพูดคุยกันหลังจากนี้ แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการดึงหนังสือคำร้องต่อ มส. กลับคืน